12360 จำนวนผู้เข้าชม |
แชมพูเปลี่ยนสีผมเป็นอันตรายไหม ?
สำหรับสาวๆที่ชื่นชอบการทำสีผมในรูปยาย้อมแบบแชมพู หรือแชมพูเปลี่ยนสีผม ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ยาย้อมผมได้ เกิดอาการคันหนังศีรษะ แสบร้อนและอาจส่งผลให้บางรายมีแผลและน้ำเหลืองออกมาบริเวณหนังศีรษะจากอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งทางเรามีความใส่ใจในผู้บริโภคและเล็งเห็นถึงปัญหาจึงขอนำคำเตือนจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อเตือนถึงภัยถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ และช่วยให้คุณระวังการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้กันให้มากขึ้นนะคะ
อย.เตือนผลิตภัณฑ์ย้อมผมรูปแบบแชมพู ไม่ใช่แชมพูสระผมทั่วไป
ใช้บ่อยอาจได้รับอันตราย
“บทความจากข่าว ออกเตือนถึงความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากผลิตภัณฑ์ย้อมผมในรูปแบบแชมพู โดย นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ย้อมผมในรูปแบบแชมพู โดยให้ผู้ใช้นำส่วนผสมที่บรรจุอยู่ในซองผสมเข้าด้วยกันแล้วชโลมบนเส้นผมให้ทั่ว จากนั้นล้างออก ด้วยน้ำเหมือนการสระผมปกติ จึงมีการโฆษณาทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทแชมพูสระผมที่สระแล้วทำให้สีผมเปลี่ยนไป และผู้บริโภคบางส่วนยังเข้าใจผิดว่าสามารถใช้สระผมได้ทุกวันเหมือนแชมพูทั่วไป
อย. ได้ให้การชี้แจงว่า ไม่เคยมีการอนุญาตให้ผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอางประเภทแชมพูสระเพื่อเปลี่ยนสีผม ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ย้อมผมรูปแบบหนึ่งที่มีสารชำระล้างเป็นส่วนประกอบเพิ่มขึ้นแต่ไม่ใช่แชมพูสระผม จึงมีข้อควรระวังในการใช้เหมือนผลิตภัณฑ์ย้อมผมทั่วไป ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ย้อมผมมากกว่าร้อยละ 60 ที่จำหน่ายในท้องตลาดมีสาร p-phenylenediamine หรือ PPD เป็นสีย้อมผมถาวร ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการแพ้ทางผิวหนังโดยเฉพาะหนังศีรษะ การใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมจึงควรใช้อย่างระมัดระวัง และถึงแม้จะอยู่ในรูปแบบแชมพู ก็ไม่สามารถใช้บ่อยเหมือนการสระผมทั่วไป เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้รองเลขาธิการ อย.กล่าวต่อไปว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมอย่างปลอดภัย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผม ชนิดชั่วคราวจะปลอดภัยกว่า อ่านข้อความบนฉลาก โดยต้องมีข้อความภาษาไทยครบถ้วน ปฏิบัติตามคำเตือนและวิธีการใช้อย่างเคร่งครัด ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ โดยทาผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่ผสมแล้วใต้ท้องแขนหรือหลังใบหู ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง หากมีอาการคัน เป็นผื่นแดง บวม หรือมีอาการผิดปกติอื่นใดก็ตามห้ามใช้อย่างเด็ดขาด ควรใช้กรณีที่จำเป็นจริงๆ เช่น ใช้เมื่อเริ่มผมหงอก ไม่ใช้บ่อย และไม่ใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ห้ามใช้เมื่อหนังศีรษะมีรอยถลอก เป็นแผล หรือโรคผิวหนัง ไม่ทิ้งระยะเวลาให้สีย้อมผมอยู่บนศีรษะนาน หลังย้อมเสร็จสระผมให้สะอาด ใส่ถุงมือขณะย้อม ห้ามผสมผลิตภัณฑ์ย้อมผมต่างชนิดเข้าด้วยกัน เพราะอาจเพิ่มอันตรายจากการใช้ได้ หากใช้แล้วมีความผิดปกติขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย เช่น คันยุบยิบ แสบ ร้อน แดง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใช้ครั้งแรก หรือเคยใช้มาระยะหนึ่งแล้วก็ตาม ต้องหยุดใช้ทันทีแล้วล้างออกด้วยน้ำ ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์ พร้อมทั้งนำฉลาก ซอง กล่อง ของผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่ใช้ ไปให้แพทย์ดู ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผม ย้อมขนตาและขนคิ้ว เพราะอาจเข้าตาก่อให้เกิดอันตรายต่อตาได้”
----------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง: https://mgronline.com/qol/detail/9540000158982
ซึ่งการเลือกใช้แชมพูเปลี่ยนสีผมเป็นกระบวนการทางเคมี และหากใช้ไปนานๆ อาจเกิดการสะสมของสารเคมี รวมไปถึงทำให้ผิวหนังศีรษะเกิดความอ่อนแอลงได้
ทั้งนี้หากมีอาการแพ้เกิดขึ้น และยังมีอาการอยู่แม้ว่าจะหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ไปแล้ว การใช้แชมพูที่ช่วยลดธาตุไฟ จะช่วยลดอาการอักเสบ รวมถึงอาการแพ้ต่างๆ ได้ดี ช่วยให้หนังศีรษะของคุณกลับมาสมดุลและสุขภาพดีอีกครั้ง ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราที่แนะนำ มีดังนี้
- JIVA Pitta Pacifying แชมพูนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยลดธาตุไฟ เช่น ใบบัวบก และสมุนไพรอื่นๆ ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบ รวมถึงอาการแพ้ต่างๆ
- Revita Gentle Plus แชมพูอ่อนโยน ที่มีส่วนผสมของเหงือกปลาหมอ ซึ่งช่วยปรับสมดุลและรักษาแผลได้ดี
THAI HERB HUB
ฮับสมุนไพรเพื่อคนใส่ใจสุขภาพ