แชมพูเปลี่ยนสีผม อันตรายกว่าที่คุณคิด

ย้อมผมรูปแบบแชมพู อันตรายกว่าที่คุณคิด

     เนื่องจากทางศูนย์ดูแลสุขภาพผมจีวา เจอเคสจากลูกค้าที่แพ้ยาย้อมผมเข้ามาปรึกษาอย่างต่อเนื่องสำหรับปีที่ผ่านมา บางรายมีอาการคันมากผิดปกติ แสบร้อนหนังศีรษะ และบางรายส่งผลถึงขั้นเกิดแผลและมีน้ำเหลืองออกบริเวณหนังศีรษะเนื่องจากแพ้สารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์

     ทางเราเล็งเห็นถึงปัญหาจากเรื่องนี้และอยากเตือนผู้บริโภคอีกครั้งถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น จึงขอนำคำเตือนจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาให้ทุกท่านในบทความนี้ และระวังการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้กันให้มากขึ้นนะคะ


 อย.เตือนผลิตภัณฑ์ย้อมผมรูปแบบแชมพู ไม่ใช่แชมพูสระผมทั่วไป 

“เมื่อประมาณปี 2554 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกมาประกาศเตือนผู้บริโภคเกี่ยวกับอันตรายจากผลิตภัณฑ์ย้อมผมในรูปแบบแชมพู โดย นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ย้อมผมในรูปแบบแชมพู โดยให้ผู้ใช้นำส่วนผสมที่บรรจุอยู่ในซองผสมเข้าด้วยกัน แล้วชโลมบนเส้นผมให้ทั่ว จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเหมือนการสระผมปกติ จึงมีการโฆษณาทำให้เข้าใจผิดว่า เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทแชมพูสระผม ที่สระแล้วทำให้สีผมเปลี่ยนไป และผู้บริโภคบางส่วนยังเข้าใจผิดว่า สามารถใช้สระผมได้เหมือนแชมพูทั่วไป

อย. ได้ชี้แจงว่า ไม่เคยมีการอนุญาตให้ผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอางประเภทแชมพูสระเพื่อเปลี่ยนสีผม ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ย้อมผมรูปแบบหนึ่ง ที่มีสารชำระล้างเป็นส่วนประกอบเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่แชมพูสระผม จึงมีข้อควรระวังในการใช้เหมือนผลิตภัณฑ์ย้อมผม ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ย้อมผมมากกว่าร้อยละ 60 ที่จำหน่ายในท้องตลาดมีสาร p-phenylenediamine หรือ PPD เป็นสีย้อมผมถาวร ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ได้ ทั้งนี้ หากใช้แล้วมีความผิดปกติขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ต้องหยุดใช้ทันทีแล้วล้างออกด้วยน้ำ ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์

รองเลขาธิการ ฯ อย. กล่าวต่อไปว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมอย่างปลอดภัย ควรอ่านข้อความบนฉลาก โดยต้องมีข้อความภาษาไทยครบถ้วน ปฏิบัติตามคำเตือนและวิธีการใช้อย่างเคร่งครัด ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ โดยทาผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่ผสมแล้วใต้ท้องแขนหรือหลังใบหู ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง หากมีอาการคัน เป็นผื่นแดง บวม หรือมีอาการผิดปกติอื่นใดก็ตาม ห้ามใช้อย่างเด็ดขาด ห้ามใช้ในกรณีที่หนังศีรษะมีรอยถลอกเป็นแผล หรือโรคผิวหนัง หากใช้แล้วมีความผิดปกติขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย เช่น คันยุบยิบ แสบ ร้อน แดง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใช้ครั้งแรก หรือเคยใช้มาระยะหนึ่งแล้วก็ตาม ต้องหยุดใช้ทันทีแล้วล้างออกด้วยน้ำ ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์ พร้อมทั้งนำฉลาก ซอง กล่อง ของผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่ใช้ไปให้แพทย์ดู”

_______________________________________________________
อ้างอิง: กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
http://pca.fda.moph.go.th/public_media_detail.php?id=2&cat=50&content_id=309
https://pr.prd.go.th/ewt/region2/ewt_news.php?nid=29979&filename=ov&nid=29979&filename=ov

     ทั้งนี้หากท่านที่มีอาการแพ้เกิดขึ้น และยังมีอาการอยู่แม้ว่าจะหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ไปแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าหนังศีรษะเสียสมดุล มีีอาการอักเสบเพราะธาตุไฟสูงเกินไป เราแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์เจริญธาตุไฟ เนื่องจากจะทำให้อาการแพ้รุนแรงขึ้นได้ ควรเลือกแชมพูที่

• ปลอดสารโซเดียม ลอริล ซัลเฟต / Sodium lauryl sulfate (สารชะล้างที่รุนแรง)
• ปลอดสารในกลุ่มซิลิโคน เช่น Dimethicone (สารทำให้ผมลื่นหวีง่าย แต่อุดตันรูขุมขนทำให้ผมร่วงเมื่อใช้ระยะยาว)
• ปลอดสารไดเอทธานอลาไมด์ / Diethanolamide (สารเพิ่มฟองเพิ่มความข้น แต่เป็นสารก่อมะเร็ง) 
• ปลอดสารปิโตรเคมี ลาโนลิน สีและกลิ่นสังเคราะห์ หรือแอลกอฮอล์ (อาจก่อให้เกิดอาการแพ้)  ซึ่งจะพบในแชมพูทั่วไป

     การใช้แชมพูที่ช่วยลดธาตุไฟ จะช่วยลดอาการอักเสบ รวมถึงอาการแพ้ต่าง ๆ ได้ดี ช่วยให้หนังศีรษะของคุณกลับมาสมดุลและสุขภาพดีอีกครั้ง ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราที่แนะนำ มีดังนี้

- JIVA Pitta Pacifying แชมพูนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยลดธาตุไฟ เช่น ใบบัวบก และสมุนไพรอื่นๆ ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบ รวมถึงอาการแพ้ต่างๆ
- Revita Gentle Plus แชมพูอ่อนโยน ที่มีส่วนผสมของเหงือกปลาหมอ ซึ่งช่วยปรับสมดุลและรักษาแผลได้ดี

ด้วยความห่วงใย จากศูนย์ดูแลสุขภาพผมจีวา