สมุนไพรหลักในผลิตภัณฑ์

สมุนไพรหลักในผลิตภัณฑ์

ก.สมุนไพรหลักในโลชั่นบำรุงผมและสมุนไพรหมักผม รีไวต้า และ จีวา

1. มะตูมนิ่ม

ส่วนที่ใช้ : ผล

สารออกฤทธิ์สำคัญ : กรดไขมันจำเป็น สารฟลาโวนอยด์

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา : ต้านอนุมูลอิสระ ต้านความชรา ต้านแบคทีเรีย รา ไวรัส และปรสิต

ประโยชน์ : เป็นยาอายุวัฒนะ เจริญไฟธาตุ แก้ธาตุพิการ เป็นยาบำรุง ปรับธาตุ

หมายเหตุ มะตูมนิ่มเป็นมะตูมพันธุ์พิเศษ ซึ่งเมื่อสุกเปลือกจะนิ่มสามารถผ่าได้ ใช้ทำยาอายุวัฒนะ เช่น ในตำราลูกแปลกแม่ ซึ่งเมื่อแม่กินยานี้แล้ว ลูกจะจำหน้าแม่ไม่ได้ เพราะแม่ดูสาวขึ้นมาก

กลุ่มเภสัชกร และนักวิทยาศาสตร์ของ ช เนเจอร์ จึงได้นำมาผลิตเป็น โลชั่นบำรุงผม( Hair Tonic) โดยผสมกับบัวบก งาดำ และสมุนไพรอื่นๆ ชื่อว่า โลชั่นบำรุงผมรีไวต้า รีโกรว์ และ จีวา แฮร์โกรว์ และสมุนไพรหมักผม รีไวต้า รีไวซ์ โดยอาศัยฤทธิ์ในการฟื้นฟูสภาพของเซลผมจาก มะตูมนิ่ม และ งาดำ และการกระตุ้นการ เจริญของเซลผมจากบัวบก และฤทธิ์ในการบำรุงรากผม จากสมุนไพรอื่น ๆ ที่ให้สารอาหารพวกกรดไขมัน โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ และอื่น ๆ จึงทำให้ รีไวต้า และจีวา มีผลครอบคลุมแบบองค์รวม (Holistic) ใช้ได้ผลดีในท่านที่ผมร่วง ศีรษะบาง และทำให้รากผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงเมื่อหยุดใช้ ซึ่งต่างจากยา สารเคมีซึ่งให้ผลเฉพาะด้าน เช่น ไมน็อกซิดิ้ล และฟิแนสเตอไรด์

2. บัวบก

ส่วนที่ใช้ : ใบ

สารออกฤทธิ์สำคัญ : กรด madecassic กรด asiatic และ asiaticoside

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา : กระตุ้นการเจริญของผม

ประโยชน์ : บำรุงผม ชะลอผมหงอก

3. งาดำ

ส่วนที่ใช้ : เมล็ด

สารออกฤทธิ์สำคัญ : กรดไขมันไม่อิ่มตัว มีถึง 35 – 37 % กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งพืชโดยทั่ว ไปไม่มีและร่างกายมนุษย์สร้างเองไม่ได้ แร่ธาตุ เช่น สังกะสี ช่วยบำรุงผิวหนัง เหล็ก ช่วยบำรุงเลือด วิตามินบี ทุกชนิด (ยกเว้นบี 12)

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา : ต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูหนังศีรษะ และเซลผมให้มีชีวิตชีวา กระตุ้นการเจริญของผม

ประโยชน์ : บำรุงผม ชะลอผมหงอก

4. สมุนไพรอื่นๆอีกกว่า 10 ชนิด เช่น พระยางิ้วดำซึ่งมีประสิทธิผลสูงในการบำรุงพื้นฟูเซลผม

ข. สมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบของแชมพูอ่อน รีไวต้า และ จีวา

1. ส้มป่อย

ส่วนที่ใช้ : เนื้อ ผล (ฝัก)

สารออกฤทธิ์สำคัญ : กรดอะคาเซีย ไกลโคไซด์ และซาโปนิน

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา : ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา

ประโยชน์ : ในสมัยโบราณนิยมใช้ฝักตีกับน้ำให้เกิดฟอง ใช้ สระผม แก้รังแค แก้โรคผิวหนัง ทำให้ผมนิ่ม ช่วยทำให้ผมขึ้น(สารซาโปนิน เป็นตัวก่อฟอง ใช้ทำความสะอาดหนังศีรษะ ส่วนไกลโคไซด์ และกรดอะคาเซีย ช่วยต้านแบคทีเรีย เชื้อราและ ตัวไรคน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของรังแค และผมร่วง)

ความเชื่อตามตำนานไทย : ส้มป่อยเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่พระอินทร์ประทานให้ชาวโลก เพื่อช่วยฟื้นพลัง แก้ไข จุดบกพร่องของมนุษย์ ทั้งด้านสรีระ และจิตวิญญาณ

ใบส้มป่อย ใช้ทำแกงส้ม เพื่อล้างโลหิตที่มีสารพิษ และเมือกมันในลำไส้ ซึ่งทำให้สุขภาพ ไม่ดี

ฝักส้มป่อย เมื่อตีกับน้ำจะให้ฟองในการชะล้าง ผม เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ไวรัส (ในไข้หวัด หลังจากถูกฝน หากรีบสระผมด้วยน้ำส้มป่อยจะไม่เป็นหวัด) รวมทั้งเสนียดจัญไรหรือสิ่งอัปมงคล (ชาวเหนือ จึงนิยมใช้สรงน้ำพระ และสระผม เดือน และยังใช้ในประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล)

เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยดั้งเดิม และเพื่อสุขาภาพผมที่ดี โดยเฉพาะประโยชน์ของส้มป่อย ในด้านขจัดรังแคที่มีไข่ของตัวไรขน (Demodex) กลุ่มเภสัชกรและนักวิทยาศาสตร์ จึงได้ผลิตแชมพูส้มป่อยพลัส โดยเพิ่มสมุนไพรตัวอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง และเป็นเงางาม โดยการสกัดด้วยเทคนิคธรรมชาติ เช่น ไม่ใช้สารสังเคราะห์ และแอลกอฮอล์ในการสกัด

2. เหงือกปลาหมอ

ส่วนที่ใช้ : ใบและลำต้น

สารออกฤทธิ์สำคัญ : อัลคาลอยด์ โปรตีน

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา : ต้านการก่อมะเร็ง

ประโยชน์ : บำรุงรากผม ป้องกันผมหงอก ผมร่วง

ค . สมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบของ เจลหมักผม ครีมนวดผม

1. อัญชัน

ส่วนที่ใช้ : ดอก

สารออกฤทธิ์สำคัญ : แอนโธรไซยานิน

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา : รักษาอาการผมร่วง

ประโยชน์ :          ยับยั้งแบคทีเรีย ยับยั้งเชื้อรา

ง . เครื่องดื่มฤดูร้อน ดูแลสุขภาพผม

ประโยชน์ :  ลดธาตุไฟ

          - เพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน

          - ล้างเลือดให้ไม่ข้น (ตามตำหรับไทย ไม่มีข้อพิสูจน์)

ผลที่ได้ :   ทำให้ผมร่วงน้อยลง ผมเงางามขึ้น

แนะนำทุกท่านที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ให้ดื่มน้ำมะพร้าวหรือมะเฟืองสด (อย่างน้อยวันละ 1 ลูก) หรือน้ำคั้นมะเฟืองสดหรือน้ำคั้นใบบัวบก ปริมาณเท่ารู้สึกพอดี นานประมาณ 10 วัน แล้วหยุดเว้นช่วงตามความเหมาะสม หากรับประทาน/ดื่ม มากเกินจะทำให้ร่างกายเย็น (หยิน) สังเกตได้จากอาการปวดในกระดูก ปวดปั้นเอว

จ. สมุนไพรที่ใช้ในแป้งพอกหน้านันทวดี

1. ขมิ้น

สารออกฤทธิ์สำคัญ :  Curcumin

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา :  ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา

ประโยชน์ :          ขมิ้นมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และช่วยลดการอักเสบ

2. มุก

สารออกฤทธิ์สำคัญ :  Amino acids, mineral elements

ประโยชน์ :          ทำให้ผิวพรรณสวยงาม รักษาความอ่อนเยาว์ของผิว ใช้รักษาแผลอักเสบติดเชื้อ และช่วยขจัดสารพิษให้ผิว            

3. ทานาคา

ประโยชน์ :           ช่วยรักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูดซับสิ่งสกปรกบนผิวหน้า รักษาผดผื่น สามารถใช้กันแดดได้โดยธรรมชาติ  

บทความโดย ภ . ญ . ชุลีรัตน์ ใจยอดศิลป์