ทำไมรังแคถึงเป็น ๆ หาย ๆ ?

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมรังแคถึงไม่หายสักที? ถึงแม้ว่าคุณจะลองใช้วิธีต่าง ๆ มาแก้ปัญหารังแคที่กวนใจคุณ ไม่ว่าจะเป็น เลือกใช้แชมพูขจัดรังแคตามที่เห็นในโฆษณา หรือพยายามสระผมแรง ๆ เพราะคิดว่าจะช่วยให้รังแคหลุดจากหนังศีรษะออกไปได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้น อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
รังแคเป็นได้ทุกเพศวัย ตั้งแต่ทารกจนถึงผู้สูงวัย รังแคไม่ได้เกิดจากความสกปรกเสมอไป มักสร้างความรำคาญใจ ทำให้เสียบุคลิกภาพได้
Dryness รังแคจากหนังศีรษะแห้ง ลักษณะ: สะเก็ดขาว เล็กๆ มีผิวหนังแห้งร่วมด้วย
Oily รังแคจากหนังศีรษะมัน ลักษณะ: สะเก็ดขาวออกเหลือง เหนอะหนะเกิดจากความมัน-สิ่งสกปรก และเชื้อ Malassezia
หากอยากหายจากรังแคโดยไม่พึ่งแชมพูเคมี ลองปฏิบัติตามคำแนะนำดูนะคะ

1. สระผมทุกเช้าด้วยแชมพูสมุนไพรที่ปราศจาก Silicone, SLS หรือ SLES, หรือสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ2. ขณะสระผม ควรนวดหนังศีรษะเบา ๆ ไม่ควรขยี้ผมแรงจนเกินไป เพราะ การขยี้หนังศีรษะแรง ๆ จะทำให้เกิดการอักเสบ และเพิ่มโอกาสทำให้เกิดรังแคได้ 3. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผม เนื่องจากอาจก่อให้เกิดสารเคมีที่ตกค้างอยู่บนหนังศีรษะ ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือมีอาการแพ้ได้
4. หลังจากสระผม ควรเช็ดผมให้แห้งด้วยผ้าขนหนูเบา ๆ เนื่องจากการปล่อยให้ผมเปียกเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดหนังศีรษะชื้น
5. ไม่ควรเกา เพราะจะทำให้หนังศีรษะระคายเคืองมากยิ่งขึ้น และควรดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ เปลี่ยนปลอกหมอนให้บ่อยครั้ง และล้างหวีเป็นประจำ
6. หลีกเลี่ยงการตกแต่งเส้นผมหรือการเป่าผมด้วยลมร้อนจัด เพราะความร้อนจะไปทำร้ายหนังศีรษะและทำให้ผมแห้งเสีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดรังแค